รักวุ่นวุ่น ในงานกีฬาสี
เรื่องนี้เรื่องแรกฝากด้วยนะคะ
ผู้เข้าชมรวม
70
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“ เอาล่ะนะ ตอนนี้เราตกลงแล้วจากทั้งสามห้องที่รับผิดชอบงานกีฬาสีสีฟ้า ห้องเราได้รับหน้าที่คุมกีฬานะ ”
เสียงหัวหน้าห้องพยายามประกาศแก่สมาชิกในห้อง ถึงแม้ว่าจะมีคนฟังไม่ถึงครึ่งก็ตาม ก็ตามนั้นแหละห้องเราก็คงต้องรับหน้าที่อย่างอื่นไม่ไหว ถ้าต้องรับพวก ทำสแตนเชียร์ หรือ ขบวนสีก็คงมีหวังเละเทะแน่ ก็นะสภาพในห้องผมนะหรอเดียวจะอธิบายคร่าวแล้วกันนะ ในห้องนี้มีผู้ชายซะส่วนใหญ่ทำให้บรรยากาศในห้องค่อนข้างคึกขื้น แต่บางทีมันก็มากเกินไป ส่วนใหญ่ผู้ชายในนั้นก็ค่อนข่างเอาดีทางกีฬา แน่นอนว่าเข้าเรียนบ้างไม่เรียนบ้าง อีกส่วนเป็นพวกที่เรียนปานกลางค่อยช่วยเหลือกิจกรรมพวกผู้หญิงบางเป็นครั้งคราวแต่แน่นอนขึ้นกับอารมณ์ของพวกเขา แล้วก็ยังมีผู้ชายอีกนิดหน่อยที่มักจะโดนให้ช่วยกิจกรรมเสมอ แน่นอนที่ผมอธิบายมานี้คุณคงคิดว่าผู้หญิงในห้องของผม คงต้องเป็นเหมือนนางฟ้าแน่นอนใช่ไหมล่ะพวกเขาคงต้องเหมือนสมบัติประจำห้อง แต่มันติดอยู่ที่ว่าบางครั้งโรคความจริงกับความฝันมันแต่กัน มีคนที่หน้าดีอยู่ไม่กี่คนเท่านั้น ส่วนที่เหลือนะหรอ พูดมากเสียงดังไม่มีความเป็นอิสตรีเอากันซะเลย ส่วนผมนะหรอผมพึ่งย้ายมาจากโรงเรียนแน่นอนว่าไม่มีสิทธิ์ออกปากเสียงอะไรในห้องเท่าไหร่นักในห้อง ผมจึงมักจะโดนจับยัดให้ทำกิจกรรมเสมอและดูเหมือนครั้งนี้ก็คงไม่ต่างกัน
“ งานคราวนี้ทุกคนต้องช่วนกันนะเราจะแจกงานให้ทุกๆคนได้เท่ากัน ”
ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีนะซิ
“ เอาล่ะนะ พวกมะพร้าว( พวกเอาดีทางกีฬา ) ฉันจะให้พวกนายทั้งหมดคุมกีฬาฟุตบอลทุกประเภทนะ ”
“ ส่วน เอก ปัน บอม ไปคุมแบตนะ โอม เมฆ ไอซ์ ไปคุมกรีฑา ”
โอเคเราคุมกรีฑากีฬายอดฮิต ออผมบอกทุกคนยังว่าผมชื่อ เมฆ
“ ปลื้ม มาร์ค กฤต คุมแฮนบอลนะ ”
“ ส่วนที่เหลือฉัน กับพวกผู้หญิงคุมเองพรุ่งนี้เราจะเรียกน้องมาประชุม แล้วหาตัวนักกีฬา ”
ผมก็กลับปกติเหมือนทุกทีและหวังว่าทุกอย่างมันจะผ่านไปได้ด้วยดี แต่เช้ารุ่งขึ้นความจริงอันแสนโหดร้ายก็มาเยือนพวกผม เมื่อทางโรงเรียนไม่ได้ให้ตารางการแข่งขันกีฬามาพวกผมที่ต้องคัดตัวนักกีฬาค่อนข้างมีปัญหามากเพราะไม่รู้ประเภทและจำนวนคนแข่งที่แน่ชัดของกีฬาแต่ละประเภท แถมรุ่นน้องต่างพากันไม่ยอมลงแข่งกีฬา บางคนลงแข่งก็หาคนคุมกีฬาที่ลงไม่ได้ ( ข้อนี้คงโทษใครไม่ได้นอกจากพวกพี่ๆ ) ผมนี้กับกุมขมับทุกอย่างวุ่นวายไปหมด
“ พี่ค่ะๆ แฮนบอลลงไหนหรอค่ะ ”
“ เออ แปปนะครับ ” โชคดีนะที่ผมสนิทกับปลื้ม และ มาร์ค แต่ปัญหาคือมันหายหัวไปไหนกันวะ
“ เออ น้องครับ น้องลงชื่อไว้ในนี้ก่อนได้ไหม ”
“ ได้ค่ะ ”
เด็กสาวคนนั้นตอบพร้อมส่งยิ้มให้ทันไหนนั้นความคิดในหัวผมก็พุดขึ้นมานางฟ้าชัดๆ เออ ผมก็ไม่รู้ว่ากล้าคิดไปได้ยังไงรุ่นน้องนะโว๊ย เมฆใจเย็นไว้ เราไม่ใช้โลลิค่อนนะเพื่อน หลังจากที่เธอเดินจากไปผมก็มองดูชื่อของเธอก่อนที่จะดึงสติตัวเองเข้าสู่ความวุ่นวายอีกครั้งกับการหานักกีฬา
หลังจากนั้นไม่นานพวกเราก็เลิกการประชุมสีครั้งแรก
“ ปลื้ม เอานี้น้องพวกนี้อยากลงแข่งแฮนบอล ”
“ อ่าๆ ขอบใจ ”
หลังจากนั้นผมก็ยุ่งกับการหานักกีฬาของผมกับการคัดตำแหน่งวิ่งพวกแถมไม่มีเวลาไปคิดเรื่องอื่นเลยเว้นแต่
“ เมฆ ช่วยพวกฉันหน่อยดิวะ ”
“ ช่วยอะไรวะ ปลื้ม ”
“ ช่วยกูซ้อมเด็กแฮนบอลหน่อยดิ ”
“ ของกูยังไม่เสร็จดีเลย ”
“ มึงก็ให้ไอ้ โอมกับ ไอ้ไอซ์ คุมไปดิ นะช่วยกูเถอะ ”
“ อ่าๆ ถ้าว่างจะไปนะ ”
ผมตอบให้มันแบบผัดๆไปกะว่าอีกเดียวมันก็คงลืม แต่ไอ้เรามันก็คนดีซะด้วยไม่ช่วยก็คงไม่ได้ ล้อเล่นจริงๆผมก็แค่ไม่อยากผิดคำพูดไม่ว่ากับใคร ผมค่อยๆเดินไปที่ซ้อมของพวกแฮนบอลสีของผม ใจหนึ่งก็อยากช่วยอีกใจกูก็ขี้เกียจเหลือเกินเอาเถอะเรา ในที่สุดผมก็ไปพบไอ้ปลื้มจนได้
“ โอ้เมฆ มาแล้วกะ ”
“ อ่า มีไรให้ช่วยวะ ”
“ ก็อย่างที่เห็นมึงช่วยสอนแฮนบอลให้พวกน้องผู้หญิงม.ต้นหน่อยดิ ”
ผมหันไปมองตามนิ้วมือของไอ้ปลื้มแต่ผมก็ต้องสะดุดเมื่อผมเห็นไอ้เอก ที่กำลังพยายามสอนพวกรุ่นน้องอยู่
“ ไอ้เอกก็มาช่วยแล้วนิ ”
“ แค่มันคนเดียวไม่ไหวหรอก ถือว่าช่วยกันเถอะนะ ”
“ เฮ้ยยย เอาวะ เอาก็เอา ”
ผมเดินเดินไปหาไอ้เอกที่กำลังสอนรุ่นน้องให้วิ่งกระโดดชู้ทำแต้ม แต่ดูเหมือนน้องเขาจะยังทำไม่ได้เรื่องนั้นแหละนะ
“ เอกถึงไหนแล้ววะ ”
“ ก็อย่างที่เห็นนั้นแหละ น้องเขายังจับลูกไม่มันเลย ”
ถึงตรงนี้ผมล่ะเหนื่อยใจไอ้เราก็ใช่ว่าจะเป็น กติกาตูยังไม่ค่อยรู้เลยครับ รู้แค่ว่ามันก็คล้ายๆกับบาสเพียงแต่เปลี่ยนจากชู้ลงห่วง เป็นเคี้ยวบอลให้เข้าโกลแทน แถมยังเล่นบาสก็ใช้ว่าจะเก่งพึ่งหัดได้เดือนสองเดือนเอง
“ เราให้น้องเขาฝึกรับส่งลูกก่อนไหม ”
“ อืม ตูก็ว่างั้น ”
ผมกับเอกลงมัตติเดียวกันให้น้องเขายืนเป็นวงกลมแล้วส่งรับบอลกันก่อน แต่ก็แน่นอนผลออกมาเป็นไปแบบที่ทุกคนคาดการไว้ได้ว่าไม่ได้เรื่อง ให้ระหว่างที่ผมกับเอกนั่งกุมขมับอยู่นั้นมันก็มีบ้างอย่างเคลื่อนที่เข้ามาแน่นอน มันไม่ใช่ยูเอฟโอแน่นอน แล้วก็ไม่ใช่อะไรที่ไร้สาระอยากก้อนเมฆด้วย ทุกคนหน้าจะเดากันออกใช่ไหม
“ พี่ค่ะระวังงงงง !!! ”
ใช่แล้วมันคือลูกแฮนบอลนั้นองและที่แน่ๆตอนนี้มันโดนหน้าผมเต็มๆ
“ เป็นอะไรรึเปล่าค่ะ ”
“ ออ เปล่าครับไม่เป็นไร ”
ผมยืนส่งลูกแฮนบอลกลับให้น้องเขาทั้งที่ยังมึนตึบ แต่แทนที่น้องเขารับไปแล้วจะไปซ้อมต่อเขากับยังยืนอยู่ที่เดิม
“ เอ๊ พี่นี้เอง ”
ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นก่อนจะเห็นรุ่นน้องคนที่มาขอลงชื่อกับผม
“ ออ น้องนี้เอง ”
“ แล้วพี่มาทำอะไรหรอค่ะ ไหนว่าไม่ได้คุมแฮนบอลไง ”
“ ก็พอดีมีคนขอให้มาช่วยนะ ”
“ หรอ งั้นหนูขอฟากตัวด้วยนะโค้ช หนูชื่อ... ”
“ ฝน ” ผมพูดแทรกขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ รู้ชื่อหนูด้วยหรอ ”
“ ก็นะพอดีก็มีคนมาลงแฮนบอลที่พี่คนเดียวนี้น่า เอาล่ะพี่ชื่อ เมฆนะ ไปซ้อมปะเพื่อนรออยู่ ”
“ อะไรกัน เมฆ คิดจะจีบรุ่นน้องหรอเพื่อน ”
“ พูดบ้าอะไรของแก เอก ”
“ ก็ไม่เห็นเป็นไร นี่หว่า กินเด็กเป็นอมตะนะโว๊ย ”
“ ยังไม่หยุดอีก เดียวน้องเขาก็เข้าใจผิดหรอ ”
“ ไปบอกไอ้ปลื้มนี้กว่า เมฆกินเด็ก เมฆกินเด็ก ”
“ จะหาเรื่องกันใช่ไหม ”
โชคดีที่ตอนที่ไอ้เอกมาพูดฝนไปซ้อมแล้วเพราะเราเองบางทีก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า เรามาช่วยเพราะเพื่อนหรืออะไรกันแน่ เอาเถอะหลังจากนั้นผมก็มาอยู่ช่วยซ้อมแฮนบอลซะส่วนใหญ่จนสนิทกับรุ่นน้องเขาทุกคนถึงจะไม่ได้ซ้อมจนโหดเทพแม่งขิงๆ แต่เราก็คงพอไปได้แล้วถ้าเทียบกับตอนแรกน้องเขาก็พัฒนาขึ้นมากเลยละ
ในที่สุดพวกเราก็ได้ลงแข่งนัดแรกของเราพวก เจอกับสีเขียวเหลือเชื่อว่าเราทำได้ดีเกินคาดเราชนะเรียกได้ว่าขาดรอยเลยทีเดียว เเต่ปัญหามันอยู่ที่รอบต่อไปสามชิกตัวหลักคนหนึ่งในทีมต้องไปแข่งกีฬาให้รร.แถมอีกฝ่ายเป็นสีชมพู่ ซึ่งรวมนักกีฬาบาสไว้เกือบทั้งทีมไม่สงสารกูเลย แถมหนึ่งในนั้นมีคนหนึ่งที่ไม่ได้เป็นนักกีฬาบาสก็จริงแต่ตัวใหญ่กว่าผมที่เป็นเด็กผู้ชายม.ปลายซะอีกเอาเข้าไปจะไว้ไหมเนี่ย ถึงจะไม่ได้หวังให้เป็นแชมป์แต่ลึกเราก็อยากให้พวกน้องเขาเข้าไปได้ลึกกว่านี้ เอาเถอะอยู่ที่น้องเขาล่ะนะ
“ พี่เมฆเอาไงดี ไอ้แปม ก็ไม่อยู่ ”
“ เอาน่าพวก ซ้อมด้วยกันทุกคนนะไม่ได้ซ้อมคนเดียว ”
“ ใช่แล้วเมฆพูดถูก ถ้าไม่ลองให้ถึงที่สุดก็ไม่มีทางรู้หรอกว่าผลจะเป็นยังไง ”
“ เอาล่ะ แผนของเราคือ หลังสาม กลางหนึ่ง ด้านหน้าอีกสอง ”
“ กองหลังตำแหน่งเดิม กลางแก้มพี่ฝากด้วย ”
“ แต่ด้วยคราวนี้ เหนื่อยหน่อยนะช่วยกันให้ได้ ถ้าได้บอลรีบส่งบอลให้แนวหน้าแล้วช่วยเขาบุกด้วย ”
“ กองหน้าจำไว้อีกฟากจะใช่แผนบุกสี่เหลือกองหลังไว้สองคน ให้รีบคว้าโอกาสให้ได้ ”
“ ทำไมเราไม่เน้นบุกละค่ะ ”
“ พี่ไม่อยากยอมรับแต่เราบุกสู้เขาไม่ไหว้ จำไว้แค่แต้มเดียวก็ชนะได้ขอให้ได้หนึ่งลูก ”
“ จำไว้ถ้าสำเร็จเราจะเปลี่ยนเป็นเล่นเยือนเกม กันให้ดีที่สุดบุกเมื่อมีโอกาส โอเคไปได้ ”
ถึงผมจะบอกแผนแบบนั้นไปแต่ก็ใช่ว่าจะได้ผล ผ่านไปสิบนาทีแรกไม่มีใครทำประตูได้แถมกองหลังที่ตัวใหญ่เท่าบ้านเท่าเมืองยังไม่ลงเราต้องทำแต้มให้ได้ แต่ดูเหมือนแผนผมได้ผลในที่สุดเราก็ยิงเข้าหนึ่งลูก แต่เพราะลูกนั้นทำให้อีกฟากเอาตัวปัญหาลง ฝั่งเราทำแต้มเพิ่มไม่ได้แถมยังถูกตีเสมอ กองหลังบ้างคนกับกลางเริ่มไม่ไหวแล้ว ส่วนฝนที่พร้อมเล่นการไหวตอนนี้ก็ป่วยอยู่ ผมต้องรีบเปลี่ยนคนเข้าแทน หมดครึ่งแรกเกมนั้นยังสูสีแต่อีกฝ่ายมีตัวสำรองมากกว่าถ้ายื้อนานๆคงไม่ไหวแต่ปัญหามันเพิ่มเริ่ม โกลของเรานิ้วซ้นจนเล่นต่อไม่ได้แถมทีมเราไม่มีโกลสำรองซะด้วย
“ ฝนลงเป็นโกลหน่อยไหวไหม ”
“ ค่ะพอไหว ”
แต่อย่างที่รู้กันยังไงโกลเราคงไม่ไหว เปลี่ยนตัวลงไปยังไม่ถึงสามนาทีเราก็โดนนำจนได้ ผมดูเหตุการณ์ต่อไปจนตอนนี้ 3-1 ฝั่งเราคงกันไม่ไหวแล้วจริงๆ
“ กรรมการของเวลานอกครับ ”
“ เอาล่ะเราคงเห็นแล้วว่าเราคงกันไม่อยู่แน่ ”
“ พี่ขอเปลี่ยนแผน ”
“ บุกไปเลยสี่คน หลังเหลือสองพอ ”
“ แล้วถ้าโดนยิงอีกล่ะค่ะ ”
“ ฟังนะตอนนี้เราไม่มีอะไรจะเสียเเล้ว เล่นให้เต็มที่พยายามเล่นโซนของอีกฝ่ายไว้ ”
“ ถ้าเราเล่นแต่โซนฟากเขาได้เขาก็บุกมาไม่ได้ ”
ดูเหมือนแผนพิเรนของผมได้ผลเรายิงได้อีกหนึ่งประตู แต่ว่าสุดท้ายเราก็ตามอีกฝ่ายไม่ทันเกมจบลงที่สกอร์ 3-2 เราแพ้
“ เอาล่ะทุกคนทำได้ดีแล้วเราไปพักที่แสตนเชียร์กันเถอะนะ ”
ผมหันหลังยังไม่ทันเดินพวกน้องๆก็พากันร้องไห้ ชิบหายล่ะตรูไม่เคยปลอบใครซะด้วยกรรมแท้ แล้วตรูจะทำไงดีล่ะเนี่ย
“ เอาน่าอย่าร้องสิ เราทำดีที่สุดแล้ว ”
เยี่ยมดีมากเอก นายโซโลเลยโชคดีที่ผมไม่ได้พูดออกไป ถ้าพูดมีหวังโดนด่าเละแน่
“ แต่ว่า เพราะหนูรับบอลไม่ได้ ”
“ อย่าโทษตัวเองสิ ”
เอกยิ้มเอามือลูบหัวฝน ก่อนที่ฝนจะเริ่มหยุดร้องไห้
“ ฝนพี่เห็นแกเดินแปลกๆตั้งแต่ตอนลงแข่งแล้วมันอะไรรึเปล่า ”
“ ก็เจ็บนิดหน่อยค่ะ ”
“ งั้นมาเดียวพี่พาไปเต็นพยาบาล ”
ทันใดทีฝนขึ้นขี่หลังเอกไปผมกลับรู้สึกใจหายแปลกๆ ทั้งอึดอัดและกระวนกระวาย ผมแถมอยากไปเดินไปหยุดแต่ก็มีรุ่นน้องคนอื่นยังร้องไห้อยู่ สุดท้ายผมก็ทำได้แค่บ่อยสองคนนั้นไป และ ค่อยๆรอให้รุ่นน้องคนอื่นหยุดร้องไห้ไปเอง
หลังจากนั้นไปนานทุกคนก็เข้าร่วมพิธีปิดงานกีฬาสีนี้ แล้วแยกย้ายกันกลับบ้านส่วนผมก็รอช่วยคนอื่นเก็บข้าวของ ในระหว่างนั้นผมก็มองไปเห็นฝนกำลังนั่งซึมอยู่คนเดียว ผมเลยเดินเข้าไปหา
“ ไงยังเสร้าไม่หายอีกหรอ ”
“ ก็นิดหน่อยค่ะ ”
“ ไม่ต้องโทษตัวเองขนาดนั้นก็ได้ ”
“ พี่ผิดเองที่ให้เราลงไปเล่นตำแหน่งนั้น ”
“ ไม่หรอค่ะ ”
“ แต่จริงๆตอนนี้หนูไม่เป็นอะไรแล้ว ”
“ แล้วนั่งหงอยทำไม ”
“ พี่คิดว่า...ถ้าหนู.... ”
“ ถ้าอะไร ”
“ ถ้าหนูชอบพี่เอก จะผิดไมค่ะ ”
“ จริงๆแล้วหนู.......................... ”
ผมไม่รู้ว่าฝนพูดว่าอะไรต่อจากนั้น ผมแค่รู้ว่าผมรู้สึกเหมือนโดนอะไรสักอย่างตีแสกเข้าที่หน้า เหมือนถูกต่อยเข้าที่ค้างสับสนและมึงงงไปหมด แล้วทำไมผมต้องรู้สึกอะไรแบบนี้ ฝนก็แค่รุ่นน้องที่มาซ้อมแฮนบอลเท่านั้น จบวันนี้ก็จะไม่ได้เจอกันอีกแล้วแท้ๆ
“ ไม่เห็นเป็นไรนิความรักมันบังคับกันได้ด้วยหรอ ”
“ แต่ว่าถ้าเขาปฏิเสธละ ”
“ อย่ายอมแพ้ซิ เล่นนะถ้ายังไม่จบก็ไม่รู้นะว่าใครจะชนะ ”
“ ไม่หลอกค่ะ อย่างวันนี้พี่ก็รู้นิค่ะว่าเราจะแพ้ ”
“ ไปที่สนามบาสสิ ”
“ เอะ ทำไมละค่ะ ”
“ ไอ้เอกชอบไปเล่นตอนเย็นที่นั้นทุกวันนะ ”
“ พี่ไม่ได้ฟังเลยรึไง ”
“ ฟังสิก็เพราะฟังนั้นแหละ ถึงวันนี้ทีมเราจะแพ้ ไม่สิถึงวันนี้ฝนจะแพ้หรือโดนปฏิเสธ ”
“ แต่ว่า ก็ไม่มีใครที่โทษหรือทอดทิ้งฝนเลยสักคนนะ ”
“ อีกอย่างถ้าฝนอกหักมาเมื่อไหร่ พี่ก็จะคอยให้คำแนะนำข้างสนามอยู่ตรงนี้เสมอ ”
“ เพราะรุ่นพี่นะมีไหวให้เวลาต้องมาหาคนปรึกษาไม่ใช่หรือไง ”
ฝนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มพูด
“ ขอบคุณนะค่ะ พี่เป็นทั้งโค้ชแล้วก็รุ่นพี่ที่ดีที่สุดเลย หนูขอตัวก่อนนะ ”
ฝนลุกขึ้นเดินไปสนามบาส บ่อยให้ผมนั่งอยู่ตรงเก้าอี้คนเดียวผมทิ้งให้ตัวเองอยู่คนเดียวสักพัก เพราะผมคงอยากพักจากงานกีฬาสี ไม่สิคงเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้มากกว่าสุดท้ายเรามันก็...เป็นได้แค่รุ่นพี่ละนะเอาล่ะผมคงไม่ไปหาน้ำใบบัวบกกินซะหน่อยซะแล้วสิ
- จบ -
ผลงานอื่นๆ ของ PCsatang ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ PCsatang
"รับวิจารณ์นิยาย By เล่ห์ดาริกา"
(แจ้งลบ)ก่อนอื่นนะคะต้องขอบอกว่า เราขอวิจารณ์กันตรงๆถ้าหากว่าแรงไปประการใดต้องขออภัย เรื่องแรกที่อยากจะติคือ...เรื่องคำผิดค่ะ...ผิดหลายคำเลยค่ะ เช่นคำว่า โรคความจริง คือว่า มันเป็น โลกความจริงรึเปล่าคะ? และการบรรยายนะคะ มันพลาดตรงที่การสนทนาค่ะน่าจะมีการบรรยายว่าใครเป็นฝ่ายพูดค่ะเพราะมันทำให้สับสนได้ ส่วนเรืองการสื่อความหมายในเรื่องสั้นนี้นั้น เรามองภาพรวม ... อ่านเพิ่มเติม
ก่อนอื่นนะคะต้องขอบอกว่า เราขอวิจารณ์กันตรงๆถ้าหากว่าแรงไปประการใดต้องขออภัย เรื่องแรกที่อยากจะติคือ...เรื่องคำผิดค่ะ...ผิดหลายคำเลยค่ะ เช่นคำว่า โรคความจริง คือว่า มันเป็น โลกความจริงรึเปล่าคะ? และการบรรยายนะคะ มันพลาดตรงที่การสนทนาค่ะน่าจะมีการบรรยายว่าใครเป็นฝ่ายพูดค่ะเพราะมันทำให้สับสนได้ ส่วนเรืองการสื่อความหมายในเรื่องสั้นนี้นั้น เรามองภาพรวมเราว่าดีนะ แต่จะดีกว่านี้ถ้าหากว่ามันมีต่อไปอีก คือ...มันน่าจะมีการหักมุมบ้างค่ะ อย่างเช่น ฝนได้คบกับพี่เอก หรือว่าบางที อาจจะหักมุมมารักพระเอกอะไรประมาณนี้ค่ะ เราอาจจะวิจารณ์ไม่เก่งนะ แต่เราวิจารณ์เท่าที่เราเห็นค่ะ อ่านน้อยลง
เล่ห์ดาริกา | 12 เม.ย. 58
0
0
"รับวิจารณ์นิยาย By เล่ห์ดาริกา"
(แจ้งลบ)ก่อนอื่นนะคะต้องขอบอกว่า เราขอวิจารณ์กันตรงๆถ้าหากว่าแรงไปประการใดต้องขออภัย เรื่องแรกที่อยากจะติคือ...เรื่องคำผิดค่ะ...ผิดหลายคำเลยค่ะ เช่นคำว่า โรคความจริง คือว่า มันเป็น โลกความจริงรึเปล่าคะ? และการบรรยายนะคะ มันพลาดตรงที่การสนทนาค่ะน่าจะมีการบรรยายว่าใครเป็นฝ่ายพูดค่ะเพราะมันทำให้สับสนได้ ส่วนเรืองการสื่อความหมายในเรื่องสั้นนี้นั้น เรามองภาพรวม ... อ่านเพิ่มเติม
ก่อนอื่นนะคะต้องขอบอกว่า เราขอวิจารณ์กันตรงๆถ้าหากว่าแรงไปประการใดต้องขออภัย เรื่องแรกที่อยากจะติคือ...เรื่องคำผิดค่ะ...ผิดหลายคำเลยค่ะ เช่นคำว่า โรคความจริง คือว่า มันเป็น โลกความจริงรึเปล่าคะ? และการบรรยายนะคะ มันพลาดตรงที่การสนทนาค่ะน่าจะมีการบรรยายว่าใครเป็นฝ่ายพูดค่ะเพราะมันทำให้สับสนได้ ส่วนเรืองการสื่อความหมายในเรื่องสั้นนี้นั้น เรามองภาพรวมเราว่าดีนะ แต่จะดีกว่านี้ถ้าหากว่ามันมีต่อไปอีก คือ...มันน่าจะมีการหักมุมบ้างค่ะ อย่างเช่น ฝนได้คบกับพี่เอก หรือว่าบางที อาจจะหักมุมมารักพระเอกอะไรประมาณนี้ค่ะ เราอาจจะวิจารณ์ไม่เก่งนะ แต่เราวิจารณ์เท่าที่เราเห็นค่ะ อ่านน้อยลง
เล่ห์ดาริกา | 12 เม.ย. 58
0
0
ความคิดเห็น